แอร์ไม่เย็น สาเหตุที่พบบ่อยและวิธีแก้ไขเบื้องต้น
ปัญหาแอร์ไม่เย็นเป็นสิ่งที่หลายบ้านและสำนักงานเจอบ่อย โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อน ซึ่งไม่เพียงทำให้ห้องร้อนอบอ้าว แต่ยังสิ้นเปลืองค่าไฟฟ้ามากขึ้น การรู้สาเหตุของแอร์ไม่เย็นและวิธีแก้ไขเบื้องต้น จะช่วยยืดอายุการใช้งานและลดค่าใช้จ่ายได้ หากไม่มั่นใจ ควรเรียกช่างแอร์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบและแก้ไขอย่างถูกวิธี
แอร์สกปรก ฟิลเตอร์หรือคอยล์ร้อนอุดตัน ทำให้การระบายอากาศไม่ดี
น้ำยาแอร์หมดหรือรั่ว ส่งผลให้การทำความเย็นไม่เต็มประสิทธิภาพ
คอมเพรสเซอร์ทำงานผิดปกติ ทำให้ไม่สามารถอัดสารทำความเย็นได้เต็มที่
ขนาดแอร์ไม่เหมาะสม ห้องใหญ่เกินไปแต่ใช้แอร์เล็ก ทำให้ไม่เย็นทั่วถึง
ติดตั้งแอร์ผิดตำแหน่ง เช่น ติดใกล้แสงแดดหรือแหล่งความร้อน
ล้างฟิลเตอร์และคอยล์แอร์อย่างสม่ำเสมอ (ทุก 3–6 เดือน)
ตรวจสอบรีโมทว่าอยู่ในโหมดทำความเย็น (Cool)
ปิดประตูหน้าต่างให้สนิท ไม่ให้ความร้อนจากภายนอกเข้ามา
หากยังไม่เย็น ควรเรียกช่างมาตรวจสอบน้ำยาแอร์และคอมเพรสเซอร์
แอร์ทำงานแต่ไม่เย็นแม้ทำความสะอาดแล้ว
มีเสียงดังผิดปกติจากคอมเพรสเซอร์หรือพัดลม
มีน้ำหยด น้ำแข็งเกาะที่ท่อแอร์
ค่าไฟสูงผิดปกติแม้ใช้แอร์ปกติ
ถาม: น้ำยาแอร์หมดต้องเติมบ่อยแค่ไหน?
ตอบ: โดยปกติไม่ควรหมดหากไม่มีการรั่ว แต่ควรตรวจเช็กอย่างน้อยปีละครั้ง
ถาม: แอร์ไม่เย็นควรล้างก่อนหรือเรียกช่างก่อน?
ตอบ: ควรล้างแอร์ก่อน ถ้ายังไม่เย็นค่อยเรียกช่างเพื่อตรวจสอบระบบภายใน
ถาม: ล้างแอร์เองได้ไหม?
ตอบ: สามารถทำความสะอาดฟิลเตอร์ได้เอง แต่การล้างคอยล์และตรวจสอบระบบควรให้ช่างมืออาชีพทำ
ถาม: แอร์ไม่เย็นแต่พัดลมทำงาน แปลว่าอะไร?
ตอบ: อาจเกิดจากคอมเพรสเซอร์เสีย น้ำยาแอร์รั่ว หรือระบบไฟฟ้ามีปัญหา
ถาม: ค่าบริการช่างแอร์ตรวจสอบและเติมน้ำยาแอร์ประมาณเท่าไหร่?
ตอบ: โดยทั่วไปอยู่ที่ 1,000–2,500 บาท ขึ้นอยู่กับชนิดแอร์และปริมาณน้ำยาที่เติม
แอร์ไม่เย็น เกิดได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่ความสกปรก น้ำยาแอร์รั่ว ไปจนถึงปัญหาคอมเพรสเซอร์ การดูแลล้างแอร์เป็นประจำและเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ จะช่วยยืดอายุการใช้งานและประหยัดค่าไฟได้ในระยะยาว